ສປ ຈີນອອກປະກາດເຕຶອນໄພຂັ້ນສູງສຸດ ວ່າເຂຶ່ອນແຫ່ງທີ່ 3 ທີ່ຢູ່ຕອນກາງປະເທດອາດແຕກຊ້ຳ

ກ່ອນໜ້ານີ້ເມຶ່ອບໍ່ຈັກມຶ້ທີ່ຜ່ານມາໄດ້ມີເຂຶ່ອນໃນປະເທດແຕກໄປແລ້ວ 2 ແຫັ່ງດ້ວຍສາເຫດແມ່ນເກີດຝົນຕົກຖະຫຼົ່ມຫຍ່າງໜັກ ປະກອບກັບເຂຶ່ອນມີອາຍຸການໃຊ້ງານມາຫຼາຍປີແລ້ວ

หลังจากที่ก่อนหน้านี้ทางสำนักข่าว Global Times สื่อของรัฐบาลจีนได้รายงานว่า เขื่อน 2 แห่งในเมืองฮูหลุน ทางตอนเหนือของจีนเกิดการพังถล่ม เนื่องจากฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก จนพื้นที่เกษตรกรรมกว่า 325,622 ไร่เสียหาย และกระแสน้ำได้ทำลายสะพานไป 22 แห่ง

ล่าสุดกองทัพจีนได้ออกประกาศเตือนอีกว่า “เขื่อนอี้เหอถาน” ที่อยู่ตรงกลางของประเทศอีกแห่ง “อาจถล่มได้ทุกเมื่อ” หลังจากได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรงจากพายุที่รุนแรงซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไปแล้วอย่างน้อย 12 ราย และทำให้เศรษฐกิจในภูมิภาคหยุดชะงัก

เจ้าหน้าที่ด้านสภาพอากาศของจีนได้ออกประกาศ “ยกระดับเตือนภัยขั้นสูงสุด” สำหรับมณฑลเหอหนานตอนกลาง เนื่องจากฝนตกหนักทำให้เกิดการหยุดชะงักในวงกว้างและการต้องอพยพผู้อยู่อาศัยจากบริเวณที่ถูกน้ำท่วม พร้อมทั้งระบุว่า ปริมาณน้ำฝนสูงสุดนับตั้งแต่เริ่มมีการบันทึกสถิติเมื่อ 60 ปีก่อน
หน่วยงานระดับภูมิภาคของกองทัพปลดแอกประชาชนจีนได้เตือนว่า ฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้เขื่อน Yihetan ในเมืองลั่วหยางซึ่งมีประชากรประมาณ 7 ล้านคน กำลังตกอยู่ในความเสี่ยงที่จะ “ถล่มได้ทุกเมื่อ”

“เมื่อวันที่ 20 ก.ค. เขื่อนอี้เหอถานเกิดรอยรั่วราวๆ 20 เมตร ริมฝั่งแม่น้ำได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง และเขื่อนอาจพังได้ทุกเมื่อ” แถลงการณ์ระบุน้ำท่วมถือเป็นเรื่องปกติในช่วงฤดูฝนของจีน แต่ภัยคุกคามกลับเลวร้ายลงตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งจากการก่อสร้างเขื่อนและเขื่อนขนาดใหญ่ ซึ่งได้ตัดการเชื่อมต่อระหว่างแม่น้ำและทะเลสาบที่อยู่ติดกัน
เพื่อให้ท่านไม่พลาดทุกสิ่งที่น่าสนใจจากเพจ THE STATE กด Likeเพจและตั้งค่า See Firstเพื่อติดตามข้อมูลดีๆได้เลยครับ
และติดตามเราอีกช่องทางได้ที่ Instagram : www.instagram.com/thestate.th